บ้านหลังคาจั่ว พื้นที่อบอุ่นสำหรับครอบครัวเล็ก ๆ

บ้านหลังคาจั่ว พื้นที่อบอุ่นสำหรับครอบครัวเล็ก ๆ บ้านแต่ละหลังล้วนมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง ไม่ว่าบ้านจะหลังเล็กหรือใหญ่ก็มีคุณค่าทางใจไม่แพ้กัน สำหรับบ้านหลังนี้ Thanh ผู้เป็นสถาปนิกออกแบบเล่าว่านี่คือบ้านที่พิเศษที่สุดในอาชีพของเขา ไม่ใช่เพราะใช้งบประมาณมากที่สุด ไม่ได้เป็นบ้านที่ดีไซน์หรูหรา
แต่เพราะเห็นถึงความพยายามที่ไม่หยุดยั้งของเจ้าของบ้าน ที่เก็บหอมรอมริบวันละน้อยหลังจากทำงานหนักในต่างประเทศ เขาตั้งชื่อโครงการนี้ว่า “บ้าน” เพราะที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงที่หลบแดดและฝนเท่านั้น แต่ยังหมายถึงที่ที่กลับไปพักจิตใจด้วย ที่เที่ยวพัทยา
บ้านหลังคาจั่วที่มองปุ๊บรู้สึกน่ารักชวนประทับใจปั๊บหลังนี้ ตั้งอยู่ในอำเภอ Duong Minh Chau จังหวัด Tay Ninh ประเทศเวียดนาม ความน่าสนใจอยู่ที่เส้นสายง่าย ๆ ที่คุ้นเคย แต่เลือกวัสดุด้านหนึ่งเป็นอิฐโชว์บรรยากาศแบบชนบท อีกด้านเป็นสีขาวตกแต่งระแนงเหล็กดูตัดกันอย่างอบอุ่น ในภาพรวมดูเป็นสไตล์ที่ทันสมัยและอ่อนเยาว์ มุ่งเน้นไปที่พื้นที่เปิดโล่ง นำผู้คนเข้าใกล้ธรรมชาติมากขึ้น นำความสดชื่นในจิตวิญญาณความเป็นบ้านมาสู่เจ้าของบ้าน
จากประตูรั้วหน้าบ้านมีซุ้มเหล็กดัดโค้งสุดคลาสสิค ที่ตั้งใจปลูกกุหลาบหรือดอกชนิดอื่น ๆ ให้เลื้อยไต่เป็นซุ้มดอกไม้สวย ๆ ต่อมาเป็นลานโล่งยาวเข้ามาหลายเมตร พื้นโรยด้วยกรวดและวางแผ่นทางหินเป็นจังหวะพอดีก้าว ให้ค่อยๆ
เดิน สองข้างทางจัดเป็นแปลงปลูกต้นไม้ที่วางผังชัดเจน มีพื้นที่ปลูกผักและปลูกไม้ดอกไม้ประดับที่ดูแลง่าย ๆ ให้ความรู้สึกของธรรมชาติตั้งแต่ก้าวแรก ส่วนของหน้าบ้านถ้ามองจากภายนอกจะเห็นฝั่งซ้ายเป็นห้องนอนหน้าต่างกว้างๆ แอบเห็นโทนสีเหลืองและลายไม้ที่เข้ากับผนังอิฐแดง ส่วนฝั่งขวาจะเป็นประตูทางเข้าบ้านที่นำไปสู่ห้องนั่งเล่น
ฟังก์ชั่นภายในบ้าน ประกอบด้วย 1 ห้องนั่งเล่น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ครัวหลัก 1 ครัวเสริม 1 ตู้เสื้อผ้า และห้องซักรีด ห้องนั่งเล่นเป็นสเปซกว้างขวางที่สุดสำหรับทั้งครอบครัวมานั่งเล่นสบายๆ และพูดคุยกันหลังกลับบ้านทุกเย็น สีเหลืองของเบาะนั่งโซฟาโดดเด่นเป็นจุดเด่นให้กับพื้นที่ Avista Grande Phuket Karon

แม้จะดูมีเส้นสายเรขาคณิตแบบมินิมออล แต่ก็แอบแฝงความรู้สึกหรูเล็กๆ ตรงฝ้าที่ออกแบบเป็นฝ้าหลุมตกแต่งไฟซ่อนที่จะเด่นชัดขึ้นในตอนกลางคืน นอกจากนี้ระบบประตูไม้กระจกบานใหญ่ช่วยเพิ่มแสงสว่างเข้าสู่ตัวบ้านในช่วงกลางวันด้วย
ถัดเข้าไปข้างในเป็นครัวและพื้นที่ทานข้าวกว้างขวาง ดีไซน์มินิมอลแต่ยังคงฟังก์ชั่นเพียงพอสำหรับทำอาหาร ระหว่างห้องนั่งเล่นมายังครัวและห้องรับประทานอาหาร จะมีซุ้มประตูสี่เหลี่ยมฉาบมุมมนเป็นช่องเปิดให้เข้าออกได้ง่ายโดยไม่ต้องเปิดปิดประตู แต่มีขอบเขตทางสายตาหลวมๆ สร้างความเป็นสัดส่วนของพื้นที่ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นและไม่รบกวนส่วนอื่นๆ ของบ้าน
ในส่วนของห้องนอนแต่ละห้องเลือกธีมและสีตามใจผู้เป็นเจ้าของ อย่างห้องเด็กหญิงสองคนจะสีสันชมพูลายดอกไม้สดใส ห้องผู้ใหญ่จะใช้สีกลางๆ นวลๆ ตัดด้วยสีน้ำเงินเขียวเข้มๆ สำหรับห้องนี้พื้นปูด้วยกระเบื้องลายไม้ก้างปลา ให้ความรู้สึกสบายและทำความสะอาดง่าย กรอบหน้าต่างขนาดใหญ่มองเห็นสวนสีเขียวสร้างชีวิตชีวาและพลังบวกในทุกวัน เก้าอี้หวายแสนผ่อนคลายมีรูปลักษณ์เรียบง่าย ช่วยให้เจ้าของทิ้งความเหนื่อยล้าจากชีวิตที่วุ่นวายเมื่อได้มาเอนกายนั่ง
ห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุพร้อมเก้าอี้โยกหวาย ทุกรายละเอียดถูกย่อให้เล็กสุดเพื่อให้ห้องโปร่งสบาย ผู้สูงวัยนอนหลับสบายได้ตลอดคืนห้องน้ำโทนสีขาวน้ำเงิน ออกจะแปลกตาสักหน่อยกันอ่างอาบน้ำตกแต่งกระเบื้องโมเสคเล็ก ๆ ออกแบบเหมือนสระว่ายน้ำขนาดจิ๋วให้แช่ตัวได้นานๆ แค่จุดเทียนหอมก็อบอวลไปด้วยกลิ่นอ่อนๆ แบบรีสอร์ท
ชวนให้พักกายอย่างสบายใจบ้านหลังนี้คือหยาดเหงื่อ น้ำตา แรงผลักดัน ความเสียสละ ความพยายามที่จะสะสมเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ส่งกลับไปเวียดนามเพื่อสร้างบ้านของครอบครัว อาจหลังไม่ใหญ่ อาจไม่สวยงามเมื่อเทียบกับบ้านหลังอื่นๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ระหว่างแม่ที่มีต่อลูกและลูกสาว
ที่มีต่อพ่อแม่ที่สัมผัสได้ในทุกตารางเมตรอิฐเป็นวัสดุบ้านๆ ที่มีเสน่ห์ให้ความรู้สึกอบอุ่นแบบชนบท คุณสมบัติวัสดุมีความแข็งแรง รับน้ำหนักได้ถึง 30 กก. ต่อ ตร.ซม. ทนทานต่อสภาพอากาศ ราคาถูก หาซื้อง่าย แต่ข้อเสียของอิฐมอญหลัก ๆ คือ เป็นวัสดุที่สะสมของความร้อนและความชื้นได้ดี ต้องเพิ่มเทคนิคในการก่อสร้าง
อาทิ การก่อเป็นผนัง 2 ชั้น สำหรับบ้านที่ใช้วิธีก่อแบบโชว์ให้เห็นแนวอิฐไม่ฉาบทับ ก็ต้องระวังเรื่องการเกิดตะไคร่น้ำ เชื้อรา ที่มาจากการสะสมความชื้นไว้ในช่วงฤดูฝน และมีฝุ่นเกาะติดตามร่องได้ง่าย ทำให้บ้านดูทรุดโทรมเร็วขึ้น ควรทาน้ำยาเคลือบผิวให้น้ำยาแทรกซึมเข้าไปในรูพรุนของอิฐแดง ช่วยป้องกัน และปกป้องพื้นผิวจากรอยขีดข่วน การซึมน้ำ เชื้อรา ตะไคร่น้ำ
บ้านหลังคาจั่ว อารมณ์กระท่อมน้อย ทรงอบอุ่นเกินต้าน

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้เราได้เห็นดีไซน์บ้านที่แปลกตา ลึกล้ำ ซับซ้อน มีอะไรให้ชวนคิดและตั้งคำถามมากมาย แต่ท้ายที่สุด “บ้านไอเดีย” คิดว่าน่าจะมีเจ้าของบ้านไม่น้อยที่อยากกลับไปสร้างบ้านแบบ Back to basic
คือรูปทรงง่ายๆ ที่เราเคยคุ้น มองดูแล้วอบอุ่นใจจนอยากรีบกลับบ้านไปรับความผ่อนคลายในทุก ๆวัน พอได้เจอบ้านหลังนี้ที่น่ารักเกินต้านทาน ก็รีบนำมาแบ่งปันให้ผู้อ่านได้เก็บเอาไว้เป็นแรงบันดาลใจ เผื่อใครที่ชื่นชอบบ้านในแบบเดียวกันนี้ครับ
โครงการนี้มีชื่อว่า Vejminek ตั้งตามชื่อของครอบครัวนี้ เป็นบ้านชั้นเดียวพื้นที่ใช้สอย 78 ตารางเมตร ในเมือง Orlov ของสาธารณัฐเช็กใกล้ ๆ กับ Příbram มีเป้าหมายเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับครอบครัวใหญ่ ที่ต้องการแบ่งพื้นที่
ว่างในบ้านให้ลูก ๆ สร้างบ้านอยู่บนที่ดินแปลงเดียวกัน แต่ออกแบบเป็นอาคารแยกต่างหากที่เล็กกว่าบ้านหลัก ซึ่งมีพ่อแม่และน้องอาศัยอยู่จนถึงปัจจุบัน ด้วยวิธีนี้จึงไม่มีความขัดแย้งระหว่างรุ่นและทุกคนจะมีพื้นที่ของตัวเองอย่างเป็นสัดส่วน
สำหรับแรงบันดาลใจในการออกแบบบ้านนี้ ก็มาจากอาคารหลักของพ่อแม่ที่สร้างอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งรูปทรงบ้านเป็นแบบคลาสสิกที่มีแผนผังพื้นเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าและหลังคาจั่ว ส่วนหน้าจั่วตกแต่งกระดานไม้ที่มีอายุสวยงามตามกาลเวลา ฉาบปูนขาวแบบดั้งเดิม และฐานหินขนาดใหญ่

ดังนั้นสถาปนิกจึงนำคุณลักษณะเฉพาะของอาคารเหล่านี้มาสร้างบ้านที่มีรูปทรงและวัสดุล้อไปด้วยกัน และหาจุดก่อสร้างที่เหมาะสมบนแปลง เพื่อไม่ให้บดบังบ้านเดิมและรับวิวสวนได้ พร้อมกับสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย แต่ยังคงอยู่ใกล้ๆ กัน
สิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนบ้านเดิมคือ หลังคา ที่เปลี่ยนมาใช้วัสดุเมทัลชีท Seamless สีดำ ทำให้มุมมองของบ้านมีเส้นสายตาที่คมชัดดูทันสมัยขึ้น รอบๆ บ้านโรยด้วยกรวดเพื่อให้บ้านดู Soft และยังช่วยซับน้ำฝนที่ไหลจากหลังคาไม่ให้กระทบตัวบ้านด้วย พลูวิลล่า
ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้างจริง ก็มีการตัดสินใจหลายอย่างที่ทั้งทีมงานและเจ้าของอยากทำให้บ้านนี้พิเศษขึ้น คือ สถาปนิกเลือกใช้วิธีการสร้างโครงแบบคลาสสิก โดยเผยให้เห็นคานและระแนงไม้บนเพดาน
ในขณะที่พื้นปูกระเบื้องสีเทา ตกแต่งภายในด้วยชุดสีโมโนโครม มีประตูและหน้าต่างบานใหญ่วัสดุอลูมิเนียม สิ่งนี้ทำให้บ้านดูไม่เหมือนใครกลายเป็นองค์ประกอบภายในที่โดดเด่น เพราะมีทั้งอารมณ์แบบชนบทและความทันสมัยที่จับมาอยู่ด้วยกัน
การแบ่งสัดส่วนฟังก์ชันภายในจะแยกโซนใช้งานสาธารณะ ประกอบด้วย โต๊ะทานข้าว เคาน์เตอร์ครัว ห้องนั่งเล่น อยู่คนละฝั่งกับห้องนอนและห้องน้ำ โดยมีผนังสีขาวกั้นเว้นช่องทางเดินทั้งสองด้าน ทำให้บ้านขนาดกะทัดรัดนี้ดูไม่แคบ สามารถเข้าถึงกันได้หมด แต่ยังคงความเป็นสัดส่วนบ้านทรงกระท่อมหลังคาจั่ว แม้จะเป็นรูปทรงอาคารที่เรียบง่าย
แต่ก็สามารถตอบโจทย์สภาพอากาศได้ดีทั้งในโซนร้อนและโซนหนาว เพียงแต่อาจจะมีรายละเอียดของวัสดุมุงหลังคาและการเพิ่มคุณสมบัติบางอย่างที่ต่างกันอออกไป เช่น ในบ้านเขตร้อนชื้น ฝนจะตกชุกกว่าและร้อนกว่า
ดังนั้นชายคาบ้านจึงต้องยื่นยาวเพื่อป้องกันผนังบ้านจากความชื้น หลังคามักนิยมตีฝ้าปิดเป็นโถงใต้หลังคาแล้วใส่ฉนวนป้องกันความร้อน ส่วนในบ้านเขตหนาวชายคามักจะสั้นกว่า มีช่องแสงขนาดใหญ่ ประตูหน้าต่างกระจกใสเพื่อเพิ่มความอบอุ่น หากจะนำแบบบ้านไปใช้งานต้องประยุกต์ให้ตอบโจทย์สภาพอากาศในแต่ละที่ด้วย

ข้อดีของบ้านหลังคาจั่ว
- ดูมีความทันสมัย และยังทำให้บ้านดูมีดีไซน์ที่สวยงาม เนื่องจากหลังคาแบบจั่วจะเป็นหลังคาทรงสามเหลี่ยมที่มีความเรียบง่าย จึงเข้าได้กับทุกสไตล์ของบ้าน
- สามารถกันแดดกันฝนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศไทย ที่มีแดดร้อนและมีฝนตกอยู่บ่อย ๆ โดยความลาดชันของหลังคาทำให้มีชายคายื่นออกมาได้อย่างเพียงพอที่จะช่วยกันแสงแดดและฝนไม่ให้ลงมากระทบกับตัวบ้าน
- ช่วยให้ตัวบ้านไม่ร้อน เนื่องจากหลังคาแบบจั่วจะมีมวลอากาศที่อยู่ภายใต้หลังคามากกว่าหลังคาแบบอื่น ๆ เพราะมีพื้นที่ภายใต้หลังคามาก ทำให้เป็นเหมือนฉนวนกันความร้อนอีกชั้น ไม่ให้ความร้อนลงมาสู่ตัวบ้านโดยตรง
- ช่วยให้บ้านโปร่งโล่ง โดยเฉพาะกับบ้านหลังคาจั่วที่ไม่มีการทำฝ้าเพดาน จะทำให้พื้นที่ใต้หลังคากลายเป็นเหมือนพื้นที่ Double Volume ซึ่งนอกจากช่วยให้บ้านดูโปร่งโล่ง และกว้างมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังช่วยรับลมเข้ามาภายในตัวบ้านได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
- สามารถก็สร้างได้ง่ายกว่าหลังคาแบบอื่น ๆ
ข้อเสียของบ้านหลังคาจั่ว
- บ้านหลังคาจั่วจะไม่รับลมเลย หากหันหน้าจั่วผิดด้าน ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังสร้างบ้านหลังคาจั่ว ควรให้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องทิศลมประจำถิ่นมาช่วยดูว่าควรหันบ้านและหน้าจั่วไปทางไหน บ้านจึงจะสามารถได้รับลมธรรมชาติอย่างเต็มที่ที่สุด ซึ่งในเรื่องนี้จำเป็นต้องให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง
- มีปัญหาเรื่องของฮวงจุ้ย เนื่องจากตามหลักฮวงจุ้ยมีการเชื่อกันว่า สามเหลี่ยมของบ้านหลังคาจั่วเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งแหลมคม เป็นอันตราย คล้ายกับลูกศร ซึ่งเชื่อว่าอาจทำให้คนที่อาศัยอยู่ภายในบ้านเจ็บป่วยได้ง่าย หรือประสบกับอุบัติเหตุ ดังนั้นสำหรับบ้านหรือครอบครัวไหนที่ถือเรื่องหลังฮวงจุ้ยเป็นสำคัญ ควรปรึกษากันเรื่องนี้ให้เรียบร้อยเสียก่อน หรืออาจลองหาทางแก้ทาง ๆ เช่น ปรับเป็นหลังคาจั่วแบบหันข้าง การซื้อเครื่องราง หรือกระจกต่าง ๆ มาติดตั้ง เป็นต้น